dimanche 12 avril 2009

หญิง หรือ ชาย โดย คมเคียว คันไถ


ความเท่าเทียม ที่ไม่เท่ากัน

อันหญิงนั้น เปรียบเป็น เช่นดอกไม้
 ชายเปรียบเป็น ตะไคร้ และใบข่า
หญิงเปรียบเป็น เพชร นิลจินดา
ชายนั้นเป็น เหล็กกล้า สิลาแลง
หญิงเปรียบเป็น ศศิธร ที่อ่อนสี
ชายอาจเป็น ดวงสุรีย์ ที่ส่องแสง
หญิงออกทัพ รับศึก ก็อ่อนแรง
ระครรำ ชายแสดง ก็ป่วยการ
ส ว เจ้าเว้า เอ็ดหยัง บ่ฟังไผ
ความเท่าเทียม คืออย่างไร จงเล่าขาน
หญิงเด่นดี กว่าชาย ก็หลายการ
บาง อย่างชาย ก็เชี่ยวชาญ เฉพาะตัว
หญิงมากชู้ อย่างชาย ทำได้หรือ
คนคงลือ ว่ากระหาย เอาหลายผัว
ขะม้าพวด หน้าห้องเวียน สับเปลื่ยนตัว
เกิดลูกมา พ่อตัว คือผู้ใด
วัยรุ่นมั่ว ทุกวันนี้ มิได้หยัน
 เพราะต้องการ ทัดเทียมทัน กันใช่ใหม
ความรักนวล สงวนนาง จางหายไป
หาแม่ดี ของลูกได้ ยากเต็มที
ความเท่าเทียม ย่อมหาใด้ ในทางอื่น
หญิงมากกว่า ชายเป็นหมื่น ในกรุงศรี
ใยไม่ช่วย ปะวีนา ครองธานี
ช่วยอองชาน ซูจี ครองรามัญ
รณรงค์ ให้ลูกผู้ หญิงทุกคน
เลือกสตรี แทนตน ทุกเขตรขันท์
เป็นผู้แทน เข้าสภา สถานบัน
 แข่งผู้ชาย เธอกับฉัน ใจต่อใจ
เวลาคล้อง พวงมาลัย ให้พระเอก
 ยี่เกเสก โอมเล่า เป่ามนต์ใส่
แบ้งค์ใบพัน ใบห้าร้อย ห้อยเรียงใบ
 เป็นหมื่นแสน คล้องให้ ตามใจตน
หาพระเอก ลิเก ลงเลือกตั้ง
ให้ปะวีนา ต้องผิดหวัง อีกสักหน
ความเท่าเทียม ใยไม่สร้าง เข้าข้างคน
เลือกคนหล่อ พอใจตน เข้าสภา
ดูตัวอย่าง ปะวีณา อรอารีย์
เยาวภา และวันดี สตรีกล้า
สร้าง คักดิ์ศรี เหนือชาย ใช้กีฬา
 ผลักดันตน เองขึ้นมา หน้าเวที
ไม่ต้องง้อ ร้องขอ ความเท่าเทียม
แข่งการเรียน หญิงยอดเยี่ยม ได้เกรดสี่
รัฐมนตรี เป็นหญิง เราก็มี
เราแพ้ภัย ตรงที่ ใจเราเอง

คมเคียว คันไถ
สมโภชน์ ๒๕๔๗

คำกลอน กระทบน้ำ ของสมโภชน์




คำกลอนกระทบน้ำ

แสนเจ็บใจ สุดเคือง เพราะเรื่องน้ำ
 ยังชอกช้ำ ใจอยู่ มิรู้หาย
วิกฤติ กาลที่ผ่านกราย
เจ้าช้างสาร เยี่ยมกราย เหยียบแผ่นดิน
เมื่อต้นเดือน กรกฎา ทุ่งนาแล้ง
 ข้าวเหี่ยวแห้ง คอยหา ธาราสินช์
พอสิงหา มายล มีฝนริน = ทั่วทุกถิ่น เริ่งรื่น ชื่นกมล
เดือนกันยา มองดูนา แสนชื่นฉ่ำ
ข้าวหว่านดำ ผลิใบ เพราะได้ฝน
ในปีนี้ พวกชาวนา คงไม่จน
ทั่วทุกคน แย้มยิ้ม กระหยิ่มรอ
เดือนตุลา เห็นนา แล้วหม่นหมอง
 น้ำท่วมนอง เจิ่งแรง ทุกแห่งหนอ
ผัวเมียมอง ดูนา น้ำตาคลอ
 ดูลูกน้อย กับหม้อ แล้วท้อใจ
พฤศจิกา น้ำตา ชาวนาหลั่ง
ต่างกอดเข่า หมดหวัง พลังไถ
เจ้าช้างสาร เหยียบบ้าน ผ่านไป
 นาไร่สูญ สิ้น เห็นดินดำ
เดือนธันวา เห็นนา แล้วใจหาย
หนี้มากหลาย เพราะตัวเรา ก้าวถลำ
หนี้ก็งอก ดอกเงินงอก-ข้าวดอกดำ
ต้องรับกรรม แบกหนี้สิน ตอนสิ้นปี
คมเคียว ุคันไถ
สมโภชน์ ๒๕๔๙

samedi 11 avril 2009

ความจินตนาการของสมโภชน์ Somport et sa imagination


บนยอดไม้

ร้องพ่อวู้ พ่อวู้ กู่ตอนเช้า
 เสียงเสียดเศร้า พ่อแม่ ก็แลหาย
น่าสงสาร ตัวเจ้า กาเหว่าลาย
พ่อแม่เจ้า ตกเหวตาย ในตำนาน
แม่นกเอี้ยง หามาเผื่อ นำเหยื่อป้อน
 กาเหว่าอ้อน ปากอ้า น่าสงสาร
พ่อนกเอี้ยง ไล่สัตรู และหมู่พาล
ช่วยแม่นก หาอาหาร มาเลี้ยงดู
เสียงดุเหว่า แว่วมา น่าจะเศร้า
แต่หัวใจ กาเหว่า น่าอดสู
กินไข่เขา เอาไข่เรา ให้เลี้ยงดู
 แท้ที่เจิง คตือสัตรู ผู้ทำลาย
ตึกสงสาร เจ้านกเอี้ยง ไม่เตียงสา
ไม่ไตร่ตรอง ใช้ปัญญา จนกว่าสาย
นั้นแซ่งแซว ไยป้อนข้าว กาเหว่าลาย
อ๋อ รังมัน อยู่บนปลาย ไม้ใกล้กัน

คมเคียว ุคันไถ
สมโภชน์ ๒๕๔๖

กระทุ่มผุ โดย คมเคียว คันไถ

ต้นกระทุ่ม ต้นใหญ่ ใกล้หมู่บ้าน
 ทางกวียนผ่าน สุมทุม พุ่มใสว
หมู่พ่อค้า พานิช จากแดนไกล
 มาพักแรม ค้าขาย ที่ปลายนา
มีน้ำตาล ถั่วงา และปลาย่าง
 วัวเทียมต่าง กองเกวียน เวียนมาหา
นำสินค้า มาแลกข้าว กับชาวนา
 เผือกมันมา ให้เลือก ข้าวเปลือกไป
แม่นำข้าว แลกเอาอ่าง กระถางน้ำ
 ทั้งถ้วยชาม ดินปั้น ฉันถือให้
กล้วยไข่เต็ม ล้นมือ น้องถือไป
เพียงพอใจ พอพึ่งพา บ้านนาเรา
แต่เดี๋ยวนี้ ไม่มีต้น กระทุ่มใหญ่
 เพราะต้นไฮ ขึ้นคลุม รุมจนเฉา
พวกกาฝาก เกาะกินน้ำ ทำร้ายเอา
หุ้มลำต้น ปล้นเอา จนเฉาตาย
อตาถตัว เจ้าหนอ ต้นกระทุ่ม
เกิดที่ลุ่ม ชีวิตผ่าน ก็นานหลาย
เพียงนกมา ถ่ายใส่ต้น สิบปีปลาย
กระทุ่มกลาย เป็นต้นไฮ ใหญ่กว่าตัว
กาฝากเดน เศรษฐกิจ ชนิดใหม่
 คอยเกาะกิน แรงกายใช้ แต่หัว
มือใครยาว สาวเอา เข้าข้างตัว
 ต่างเมามัว โกยมา เข้าหาตน
ไม่ทำนา ไม่ปลูกมัน ไม่ปั้นหม้อ
เพียงนอนรอ หุ้นออก ให้ดอกผล
คนใช้แรง ทำงาน กลับยากจน
 คนนอนกิน แรงคน กลับเฟื่องฟู
ต้นกระทุ่ม ต้นใหญ่ ตายไปแล้ว
ตายพร้อมกับ รากแก้ว กำลังผุ
ต้นไฮขาด รากแก้ว โดนพายุ
 คงตายผุ โค่นหัก ในสักวัน

คมเคียว คันไถ
กพ ๒๕๔๖


ศิลทุ วัตถุธรรม โดย คมเคียว คันไถ

เขาผลิด เหล็กกล้า สร้าง อาวุธ
แล้วนำมา ฆ่ามนุษย์ ให้เราเห็น
ทั้งเอ อี เอเปค และยูเนน
 ปล่อยให้ค้า อาวุธ เข่น ฆ่าผู้คน
สร้างโรงงาน มหึมา ไว้ฆ่าสัตว์
 ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทุกแห่งหน
นำสัตว์ป่า เอามาฆ่า ส่งสากล
เอาเนื้อเขา มาเลี้ยงตน ให้คนกิน
เขาบุกรุก ป่าไม้ ทำลายป่า
 ตัดไม้ฮุบ ที่ดินมา เสียจนสิ้น
คนยากจน ยังไม่มี ที่ทำกิน
ไม้โฉนดเป็น ทรัพย์สิน ของคนรวย
เพียงขอเอา พนันบอลล์ ขึ้นมาไว้
แบ่งรายได้ คนจนบ้าง เหมือนดังหวย
อ้างศิลธรรม เถียงกัน รัฐฝันรวย
เอาความซวย มามอมเมา เยาวชน
เด็กยากจน ถึงมอมเมา เขาไม่เล่น
 ความรำเค็ญ ย่อมจำกัน ความขัดสน
มีเด็ก เวร ลูกคนรวย ไม่ กี่คน
พ่อแม่รวย เพราะปล้น คนแรงงาน
อย่ามัวยก แต่ศิลธรรม มาปล้ำเขา
 สยพอยู่ ใต้อุ้งเท้า น่าสงสาร
อย่ามองมุม ของนัก วิชาการ
 จงมองดู สถานการณ์ ที่เป็นจริง
ทุกวันนี้ ศิลธรรม ตามวัตถุ
 สังคมเสื่อม กร่อนผุ ไปทุกสิ่ง
เด็กยากจน เด็กพิการ ถูกทอดทิ้ง
นับเป็นล้าน มากยิ่ง ในสังคม
เสียครอบครัว ลูกคนรวย ไม่กี่พัน
 ให้เป็นผี การพะนัน ก็เหมาะสม
มาช่วยเด็ก เป็นแสน จากโคลนตม
 พวกเขาคง จะชื่นชม ว่า ทำดี
ทั้งบ่อนไก่ บ่อนปลา ดาสิโน
ฉุดเอาขึ้น มาโชว์ ไว้ทุกที่
ทั้งเงินกู้ นอกระบบ ทบดอกมี
 เอามาขึ้น บัญชี ไว้ทุกราย
แล้วจงวาด แผนวาง มากางไว้
 แบ่งแจกให้ เป็นถนน คนละสาย
อาชีพผิด ศิลธรรม ทำกี่ราย
 ที่ขุดดิน หินทราย มีกี่คน
แล้วให้ท่าน นายก นามทักษิณ
มองจากฟ้า สู่ดิน วิเคาระห์ผล
แยกผลดี ผลชั่ว ไม่มั่วปน
พญาเหยี่ยว มองจากบน ค้นลงมา
ไม่เหมือนหนู ซุกอยู่ มุดรูร้อง
 เตือนพวกพ้อง ระวังแนว แมวกับหมา
เหยี่ยวบินบน วนสำรวจ ตรวจดูนา
 เห็นทุกรู หนูนา ทั้งหมาแมว
นี่คือข้อ พอเปรียบ เทียบให้เห็น
 ยกของเถื่อน ที่ซ่อนเร้น มาจัดแถว
จะเดินทาง ถนนใด ต้องวางแนว =
เขียนอักษร ต้องมีแถว บรรทัดวาง
ใช้วัตถุ เงินทอง กองเป็นป้าย
 แล้วขีดทาง ม้าลาย ห้ามออกข้าง
เอาศิลธรรม ส่องไฟ ตามแนววาง
 ตามกระแส วัตถุทาง ค่านิยม
หากท่านเอา ศิลธรรม มาทำป้าย
 ต้องทำลาย วัตถุกรรม ทำให้ล่ม
มาปลูกข้าว เลี้ยงควาย กลางสายลม
 แล้วทำลาย ทุนนิยม หมดโลกไป

คมเคียว คันไถ
กพ ๒๕๔๗

คมเคี่ยว คันไถ และคำกลอน


ใครใหญ่


ที่มุนหนึ่ง ในบ้านเรา ตอนเช้าตรู่
 เจ้าตุ๊กแก แอบอยู่ ที่มุมฝา
ได้ยินเสียง เถียงกัน พรรณา
เจ้าหรือช้า ตังใคร ใหญ่กว่ากัน
บ้านนอกว่า จะมีใคร มาใหญ่เท่า
ข้านี้มี ร่มเงา ให้อาศัย
ทั้งกิน นอน พักผ่อน แสนสบาย
หนักเรือเบา ข้ารับ ไว้ แต่ไรมา
เฟอร์นิเจอร์ บอกว่า ตัวข้าด้วย
ขาดข้าแล้ว คงไม่สวย ต้องเสาะหา
โต๊ะเตียงตั่ง ม่านระยับ ประดับประดก
สิ่งบันเทิง รื่นเริงพา ให้ชื่นใจ
บ้านขาดข้า เห็นแต่ฝา ใว้กันฝน
นายหญิงเขา จะทน ได้ใฉน
เธอคงจะ สำออย นั่งน้อยใจ
เธอจากไป บ้านนี้ใคร จะดูแล
รถยนต์ว่า หนวกหูจัง ฟังไม่ได้
ทุกวันนี้ นายใช้ ใครกันแน่
ข้าเดินทาง ทุกวัน ไม่ผันแปร
ข้านี้คือ มิตรแท้ แน่กว่าใคร
ไปท่องเที่ยว ไปทำงาน กาศึกษา
แอบไปหา กิ๊กมา ใช้ข้าได้
นายจะต้อง ขอบข้า มากกว่าใคร
 ควรมอบให้ ข้าเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน
เสียง ห้าว ห้าว แว่งดุง จากข้างล่าง
พวกเจ้าคิด เข้าข้าง ตัวทั้งสิ้น
ถึงอย่างไร เจ้าก็อยู่ ในแผ่นดิน
พวกเจ้านอน พวกเจ้ากิน อยู่ที่ใด
ทั้ง รถ บ้าน ม่านหมอน และโรงครัว
ทุกๆอย่าง อยู่ในตัว ข้าไช่ใหม
หรือเจ้าลอย อยู่บน ฟากฟ้าไกล
ให้รู้ใว้ ใครคือใคร ใหญ่ตัวจริง
แบ๊งค์พันบาท ได้ยิน ดิ้นพลาดๆ
เงินสามาระ ชื้อได้ ในทุกสิ่ง
เรานี่แหละ เทพเจ้า แห่งความจริง
ใครต่อใคร ต่างก็วิ่ง ซบตุกเรา
บ้านที่ดิน ระยนต์ ที่คนขี่
ทั้งทีวี นารี มีแก้เหงา
ช้าก่อน ยัง ฟังข้า อย่าหูเบา
 ถ้าพวกเจ้า ขาดเรา ก็ลำเค็ญ
ภาษิตว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า
ข้านี้คือ ปากกา ด้ามที่เห็น
หากสิ่งใด มให้ ตัวข้าเซ็น
 เจ้าก็เป็น เพียงกระดาษ ธรรมดา
ทั้งโฉนด ที่ดิน ถิ่นที่อยู่
เฟอร์นิเจอร์ รถหรู มิสมาทรา
แม้แต่นาย อยากใด้ ภรรยา
 ก็ต้องใช้ ปากกา ตัวข้าเซ็น
ตุ๊กแกขยับ ตัวลง เข้าโพรงฝา
ข้าเติบใหญ่ ในบ้านมา เจ้าก็เห็น
ข้านี้แหละ ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องเซ็น
มันร้องเว้น วรรคสนุก ว่า ตุ๊กแกๆ

คมเคียว ุคันไถ
สมโภชน์ ๒๕๔๗

นกกระจาบสร้างบ้าน แต่นักวิชาการสร้างอะไรหนอ?


มหาลัย ไพรวัล

นกกระจาบ คาบใยไผ่ และใบหญ้า
แล้วนำมา สอดกลับ สลับสาน
ศิลปวิจิตรโพ้นบนต้นตาล
และตระกราน เป็นหมู่บ้าน วิมานนอน
รังกลมก ลึงมีห้อง เพื่อรองไข่
ทำป่องทาง บินขิ้น ไปหาลูกอ่อน
รังต้วผู้ ทำหลังคา สร้างเป็นคอน
เป็นป้อมยาม พ่อนกนอน อยู่ไม่ไกล
พอเหยี่ยวใหญ่งูร้าย เข้าไปหา
พ่อนกจะโถมถลา เข้ามาใส่
ฝูงนกจะรวมกัน ป้องกันภัย
ตีนกใหญ่ งูร้าย ร่วงลงมา
นกเรียนใน มหาลัย แห่งใดหนอ
จึงถักทอ จัดการ งานรักษา
ไม่ได้เรียน วิศวะ และจุฬา
ไม่มีตัก กะสิรา กลางป่าไพร
อาณาจักร คือน่านฟ้า และป่าทุ่ง
มีหัวหน้า จ่าฝุง ครองกรุงใหญ่
ไม่แบ่งขั้น แบ่งวรรณ กั้นเขตไพร
ต่างก็ทำ หน้าที่ใน ส่วนของตน
ไม่เหมือนคน อ้างมา ว่ามนุษย์
 ประเสริฐสุด แล้วฉุดคร่า น่าฉงน
จราจร จราจล คนฆ่าคน
 อวดอ้างตน ว่าวิวัฒน์ กว่าสัตว์ใด
เรียนวิชา ตามล่า ปริญญาเอก
 เรียนคิดเลข ปั่นหุ้น ทุนก้อนใหญ่
ชิงแผ่นดิน เป็นของตน สร้างกลไก
 บนท้องฟ้า ยังขึ้นไป อ้างสิทธิ์ตน
สร้างอาวุธ ร้ายแรง แข่งพระเจ้า
มาลำลาย ล้างพงษ์ เผ่า กันอีกหน
ได้อะไร ขึ้นมาหนอ คนแสนกล
ขว้างงูออก นอกตน ไม่พ้นคอ
สัตว์นกเป็น สัตว์ป่า ไม่ฆ่าเพื่อน
อยู่แตนเถื่อน ป่าร้าง สร้างเรือนหอ
สัตว์คนเรียน ด๊อกเตอร์มา ฆ่าเหล่าก่อ
พวกสัตว์ เมือง เรียนมาก่อ วินาศภัย


คมเคียว ุคันไถ
สมโภชน์ ๒๕๔๗